พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์ไทยนั้นได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการเพื่อดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์ ด้วยการถวายน้ำอภิเษกและการสวมพระมหาพิชัยมงกุฎ โดยได้แบ่งออกเป็น 2 พระราชพิธีสำคัญก็คือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมเนียมของ ศาสนาฮินดู และ ศาสนาพุทธ สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นจะประกอบไปด้วย พระราชพิธีสรงพระมูรธาภิเษก พระราชพิธีถวายน้ำอภิเษก พระราชพิธีถวายเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ และการสถาปนาพระราชินีและพระราชวงศ์ และในส่วนพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรก็จะเป็นพระราชพิธีที่จัดขึ้นโดยเหล่าสมาชิกของราชวงศ์ในพระบรมมหาราชวังโดยภายหลังจากประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้นแล้ว พระมหากษัตริย์ที่ผ่านการสวมมงกุฎจะเสด็จประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทองไปประกาศพระองค์เป็นพุทธมามกะและเสด็จไปสักการะพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชบูรพการี พระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นปรากฏหลักฐานครั้งแรกในศิลาจารึกวัดศรีชุมของพญาลิไทแห่งกรุงสุโขทัย สมัยที่พ่อขุนผาเมืองได้อภิเษกให้พระสหายคือ พ่อขุนบางกลางหาวเป็นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ผู้ครองกรุงสุโขทัย แต่ก็ไม่ได้ปรากฏรายละเอียดในการประกอบพระราชพิธีแต่อย่างใด จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขึ้นเสวยราชสมบัติ ก็ได้ทรงทำพระราชพิธีนี้อย่างสังเขปเมื่อปี พ.ศ. 2325 จากนั้นได้ทรงตั้งคณะกรรมการสอบสวนแบบแผนโดยถี่ถ้วน แล้วตั้งขึ้นเป็นตำรา จากนั้นจึงทรงพิธีบรมราชาภิเษกแบบเต็มพิธีแบบครบถ้วนตามตำราเมื่อปี พ.ศ. 2328 และได้นำมาใช้เป็นแบบแผนตามตำรากับรัชกาลต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าหากนับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ประเทศไทยของเรานั้นก็ได้มีการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมาแล้วจำนวน 11 ครั้ง ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จำนวน 2 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จำนวน 1 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 2 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 2 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 1 ครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 1 ครั้ง โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ก็จะเป็นการประกอบพระราชพิธีครั้งที่ 12 ทั้งนี้ถ้าหากพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใดยังมิได้ผ่านการพิธีบรมราชาภิเษก ก็จะถือว่าทรงเป็นพระเจ้าอยู่หัวยังไม่เต็มพระองค์ โดยเครื่องยศและพระนามต่าง ๆ ที่ใช้ก็จะแตกต่างไปจากพระเจ้าอยู่หัวที่ผ่านการพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว เช่น จะไม่มีคำว่า “พระบาท” นำหน้าพระนาม เป็นต้น โดยเมื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่เดียวกันของปีถัดไปก็จะถูกกำหนดให้เป็น วันฉัตรมงคล นั่นเอง ภาพประกอบจาก : https://www.matichon.co.th/columnists/news_386543