Student Syndrome
มาให้คะแนนความขยันของตัวเองกันหน่อย
Table of Contents
- คุณเคยนั่งลอกการบ้านเพื่อนในตอนเช้าระหว่างครูประจำชั้นกำลัง Homeroom อยู่หรือไม่ ?
- การทำงานนอกเหนือเวลางาน เพื่อให้ส่งงานทันในวันรุ่งเช้า เป็นสิ่งที่คุณทำอยู่บ่อยๆ ใช่หรือไม่ ?
- คุณลืมจ่ายค่าบัตรเครดิตจนเกิดกำหนดระยะเวลาใช่ไหม ?
- อวยพรวันเกิดเพื่อนในวันถัดมา ทั้งๆ ที่เฟสบุกเตือน แต่คุณเองก็บอกกับตัวเองว่า “เดี๋ยวค่อย”
- มื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายที่ฉันจะตามใจปาก พรุ่งนี้ค่อยเริ่มออกกำลังกาย พรุ่งนี้หลายพรุ่งมาก เป็นไหม??
เอาแค่ 5 ข้อก่อนนะคะ เชื่อว่าแทบทุกคนคงให้คะแนนตัวเองเต็ม 100 ใช่ว่าจะไม่ขยัน แต่เป็นการขยันที่ไฟรนก้น เลื่อนสิ่งที่ต้องทำที่อยู่ในความรับผิดชอบออกไป จนเมื่อถึงเวลาที่ใช้คำว่าขีดเส้นตายใกล้จะมาถึงจึงลงมือทำ ลักษณะอาการเช่นนี้เรียกว่า “Student Syndrome” หรือแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ อาการของคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่งนั่นเอง
บางคนอาจให้เหตุผลว่า การได้ลงมือทำในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนกำหนดส่ง เป็นการปลุกตัวเองให้มีความกระตือรือร้น อีกทั้งยังสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเมื่อเวลาบีบเข้ามา ฟังดูเป็นการให้เหตุผลที่เข้าข้างตัวเองไม่ใช่น้อย เพราะงานบางงานอาจเกิดความผิดพลาด หรือมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้งานนั้นไม่ประสบความสำเร็จเป็นไปตามที่คาดหวัง
เราทุกคนต่างมีประสบการณ์แบบนี้กันทั้งนั้น อย่าเพิ่งโมโหตัวเองเลย เพราะสิ่งที่ได้รับมอบหมายนั้นอาจไม่น่าสนใจพอ จึงไม่มีแรงกระตุ้นให้เราได้ลงมือทำในทันที หรืออาจเป็นเพราะตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินไป จนกลัวงานออกมาไม่ดี พูดง่ายๆ คือ เป็นพวกเพอร์เฟคชั่นนิส แต่ไม่มีความสามารถในการจัดสรรเวลา อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวล่อให้เราไม่โฟกัสที่งาน คือ อิทธิพลของโลกโซเชียลอย่าง Facebook Twitter Instargram ที่คอยดึงดูดความสนใจและเวลางานของเราอย่างหน้าตาเฉย แต่จะว่าไป จะไม่โมโหตัวเองก็ไม่ได้นะ
วิธีเอาชนะความ “เดี๋ยว” (อ่านต่อเลย..ห้ามเดี๋ยว)
- ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน มันไม่ใช่แค่การกำหนดวันสิ้นสุดของงาน แต่หมายถึงการกำหนดงานในแต่ละวันของตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่การลำดับความสำคัญ ตั้งเป้าในแต่ละวันว่าต้องทำสิ่งใด ซึ่งในการกำหนดนี้ ลองเขียนลิสไว้ก่อนนอนว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไร แล้วลองทำตามลิสนั้น
- กำจัดสิ่งเร้า เชื่อว่าก่อนเริ่มงาน การเข้าไปยุ่งหรือรับรู้เรื่องคนอื่นเป็นสิ่งที่หลายคนทำอยู่เสมอ ทดลองตัดใจจาก Facebook, Instagram, Twitter หรือใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน ทั้งนี้อาจจะทำยากในช่วงแรก แต่ลองฝืนใจดู ไม่นานก็เป็นผล ซึ่งจะทำให้คุณมีสมาธิ จดจ่ออยู่กับงานที่ต้องรับผิดชอบได้มากขึ้น
- ทำในสิ่งที่ยากที่สุด หากคุณลองตัดสินใจทำสิ่งที่ยากที่สุด โดยผ่านการจัดลำดับความสำคัญมาแล้ว เมื่อคุณทำมันสำเร็จ คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่า วันทั้งวันที่เหลือคงเป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับคุณ
ทดลองปรับตัวเองเพียง 3 เทคนิคนี้ อาจทำให้งานที่คุณรับผิดชอบมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็จะได้เลิกถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์ขี้เกียจ ทำงานดินพอกหางหมู ฟังดูอาจจะไม่เจ็บใจ แต่อาจรู้สึกอีกทีช่วงโบนัสประจำปีที่จะออกเร็วๆ นี้ เริ่มต้นตอนนี้ง่ายๆ หากคุณกำลังอ่านบทความนี้ผ่านเฟสบุก และคิดว่าจะไม่อ่านบทความอื่นต่อ เกรงว่าจะเสียเวลาทำงานไปกับการรับรู้เรื่องชาวบ้าน ก็ให้พับหน้าจอนี้ แล้วกลับไปทำงาน Graphic Buffet ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ ^^
Total Page Visits: 415 - Today Page Visits: 1