ภาษีธุรกิจออนไลน์ฉบับ ใหม่
ภาษีธุรกิจออนไลน์ฉบับ ใหม่
ภาษีธุรกิจออนไลน์ฉบับ ใหม่ ค้าออนไลน์สะเทือน สรรพากรจี้เก็บภาษีธุรกิจออนไลน์ ภายใน ก.คนี้ จากนโยบาย Thailand 4.0 ทำให้เกิดเทรนด์ธุรกิจออนไลน์ที่เติบโต มี Startup หน้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วย จึงก่อให้เกิดรายได้โดยรวมอย่างมหาศาล แต่รัฐกลับพบว่าการเก็บภาษีเข้ารัฐกลับยังจำกัดแค่ภายในประเทศที่มีการซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้เฉพาะสินค้า
และบริการที่เจ้าของจดทะเบียนอยู่ในประเทศเท่านั้น ส่วนกรณีที่เจ้าของธุรกิจ ที่ไม่ได้จดทะเบียน จัดตั้งบริษัทในต่างประเทศนั้น กลับไม่ได้รับการจัดเก็บภาษี รัฐบาลจึงได้ให้กรมสรรพากร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) ร่วมหารือกันเร่งยกร่างกฎหมายภาษีธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเป็นการดำเนินการตาม มาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาภายในเดือนกรกฎาคมนี้
จากการที่กรมสรรพากรจะจี้เก็บภาษีธุรกิจออนไลน์ภายใน กรกฎาคมนี้ กราฟฟิก บุพเฟ่ต์ จึงไปหาข้อมูล การเก็บภาษีธุรกิจออนไลน์ฉบับใหม่นี้มาให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ได้รู้ข้อมูลการจ่ายภาษีกันนะคะ ว่าเราจะต้องทำอย่างไร และจะต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ส่วนจะมีการแก้ไขและสาระสำคัญอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
ภาษีธุรกิจออนไลน์ ที่จะประกาศใช้ใหม่นี้ ก่อนอื่นเลยนะคะที่เราต้องทำก็คือ ในการเปิดร้านค้าออนไลน์นั้น เราจะต้องมีการลงทะเบียนรายงานรายได้ด้วยค่ะ แม้บางรายมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ถึงแม้เราจะไม่ต้องเสียภาษีแต่เราก็จะต้องยื่นแสดงรายได้ต่อกรมสรรพากรด้วย เพราะเค้าถือว่าเป็นเราผู้ที่มีรายได้ และในรายที่มีรายได้เกินกว่าเกณฑ์แน่นอนคะก็จะต้องยื่นเสียภาษี ที่เราทราบอยู่แล้วว่าการเสียภาษีนี้จะมี 2 แบบนั่นคือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ภาษีเงินได้นั่นแหละค่ะ ซึ่งภาษีออนไลน์ที่จะประกาศใช้ใหม่นี้ ได้กำหนดหลักการดังนี้
- หากนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นในต่างประเทศ มีรายได้หรือมีการโอนเงินเข้าประเทศไทย จะต้องเสียภาษีเงินได้ จากรายได้ โดยให้ผู้จ่ายหักภาษีจากเงินได้ที่จ่ายในอัตราสูงสุด 15% และหากมีรายได้จากการขายสินค้า และบริการเกินปีละ 1.8 ล้านบาท ต้องจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย และยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับสินค้าที่มีการนำเข้าทางไปรษณีย์ที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท
- ให้สรรพากรตีความว่าเว็บไซต์ ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ ที่มีข้อความหรืออักษรเป็นภาษาไทยนั้น มีสถานที่หรือสำนักงานตั้งอยู่ในไทย
- หากธุรกิจออนไลน์มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย กรมสรรพากรสามารถประเมินภาษีจากธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดยอัตราภาษีที่จะเรียกเก็บจากผู้ประกอบการออนไลน์ คือภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) 7% และภาษีเงินได้นิติบุคคล 20%. และอาจระบุจำนวนเงินที่ชัดเจนในการเสียภาษี หากผู้ประกอบการคิดว่าไม่ถูกต้อง ก็สามารถยื่นเอกสารประกอบการชี้แจงเพื่อประเมินภาษีร่วมกันได้
จากการที่รัฐให้สรรพากรจี้เก็บภาษีธุรกิจออนไลน์นั้น จะทำเกิดผลดี ในการเกิดความเป็นธรรมในระบบการเสียภาษีที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ แต่ก็อาจเกิดผลเสียตามมาได้เช่นกัน กับการที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์อาจจะต้อง มีภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจส่งผลถึงผู้บริโภคที่ต้องซื้อสินค้า และบริการออนไลน์ในราคาที่เพิ่มขึ้น และอาจเกิดการกระทบกันเป็นลูกโซ่จากสิ่งที่ได้ ก็อาจจะไม่คุ้มเสียได้ค่ะ